เนื้อเรื่อง...นิทานเรื่อง “ลูกหมูสามตัว”
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว
มีแม่หมูกับลูกหมูสามตัว อาศัยอยู่ในบ้านหลังหนึ่งร่วมกันอย่างมีความสุข
หมูโตสุดซึ่งเป็นพี่ใหญ่ชื่อหมูต๊ะนั้นชอบไปแอบหาที่หลบหลับนอนอยู่ตลอดเวลาเป็นหมูที่ออกจะเกียจคร้านเป็นอย่างมาก
และก็มักที่จะชอบไปแอบหาที่หลบหลับนอนอยู่ตลอดเวลา
ลูกหมูตัวที่ 2 ชื่อหมูตั้มซึ่งเป็นน้องหมูตัวกลางก็เป็น หมูที่ตะกละเป็นที่สุดกำลังนั่งกินอาหาร
เป็นหมูที่ตะกละเป็นที่สุดจะไม่ชอบทำงาน
แม้เวลาทำงานก็จะหาเรื่องพักและกินอาหาร ที่แอบพกติดตัวมาด้วยอยู่เสมอๆ
ส่วนลูกหมูตัวที่
3ชื่อหมูต้อมนั้นกำลังถูพื้น เป็นหมูที่ขยันขันแข็งและชอบทำงานเป็นอย่างมาก
ถึงแม้ว่า หมูต้อมจะเป็นหมูที่ขยันทำงาน แต่อาหารที่หามาได้นั้นก็ต้องหมดลงไปในไม่ช้า
เป็นเพราะว่าที่บ้านของเขานั้นมีลูกหมูที่ขี้เกียจและลูกหมูที่ชอบกินอีกตั้งสองตัวนั่นเอง
ทำให้อาหารนั้นหมดลงไป ๆ หายไปทีละชิ้น ๆ
พี่หมูทั้งสองตัวคือหมูต๊ะและหมูตั้ม
เอาแต่นั่งกินอาหารไม่ช่วยทำงาน จนถึงเวลาที่แม่หมูพูดกับลูกหมูว่า ถึงเวลา ที่ลูกหมูทั้งสามจะต้องแยกย้ายกันออกไปสร้างบ้านเป็นของตัวเองได้แล้ว
ด้วยเหตุที่แม่หมูเห็นว่าลูกหมูทั้งสามตัวนั้นโตขึ้นทุกวัน
แม่หมูจึงพูดกับลูกหมูทั้งสามตัวว่า
“พวกลูก ๆ โตเกินกว่าจะอยู่ในบ้านหลังน้อยของแม่แล้ว
ถึงเวลาที่ลูก ๆ จะต้องมีบ้านเป็นขอตัวเองได้แล้วล่ะจ๊ะ”
เมื่อหมูต้อมได้ฟังแม่หมูพูดดังนั้น ก็มีความปิติยินดีเป็นอย่างมาก
และเริ่มคิดว่า “เราจะสร้างบ้านของเราแบบไหน
แล้วจะเอาอะไรมาสร้างบ้านดีนะ แต่เอ้... แล้วถ้าเราสร้างบ้านด้วยอิฐล่ะ
เมื่อหมูต๊ะพี่คนโตสุดได้ยินแม่หมูพูดเช่นนั้น ก็พูดบ่นขึ้นมาทันที
ด้วยเพราะหมูต๊ะ ไม่ชอบที่จะทำงานอยู่แล้วนั่นเอง
หมูต๊ะ:”ไม่เห็นต้องออกไปสร้างบ้านเลย ร้อนก็ร้อน
เหนื่อยก็เหนื่อยอยู่กับแม่ก็ดีอยู่แล้ว
ถ้าออกไปอยู่ข้างนอกก็จะไม่มีใครทำอาหารให้กินนะสิ”
แม่หมู: “ไม่ได้นะหมูต๊ะ ลูกโตแล้ว
ลูกต้องรู้จักดูแลตัวเองได้แล้ว จะมัวทำตัวขี้เกียจต่อไปไม่ได้นะ”
เมื่อหมูต๊ะโดนแม่หมูดุ จึงออกไปสร้างบ้านอย่างไม่ค่อยที่จะเต็มใจสักเท่านัก
หมูต๊ะ : “อู๊ด..อู๊ด ! มันเป็นเรื่องที่น่าเบื่อ
น่ารำคาญเป็นอย่างมาก เอ๊ะ..!! แล้วถ้าเป็นบ้านที่ทำด้วยฟางล่ะ? เราก็จะสามารถที่จะสร้างมันขึ้นมาได้อย่างง่าย
ๆ และรวดเร็วอีกด้วย ฮ่า ฮ่า ฮ่า..“
หลังจากนั้นหมูต๊ะ ก็ได้แยกทางจากน้อง ๆ
เพื่อไปเดินเก็บฟางมาสร้างบ้านของตน แล้วไม่นานบ้านที่ทำขึ้นมาจากฟาง
ก็ถูกสร้างขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ตัวหมูต๊ะเองก็ทำการสร้างบ้านไปบ่นไป ”โอ้ย... เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว เมื่อไรจะเสร็จสักทีล่ะเนี่ย”
ส่วนหมูตั้ม และหมูต้อม ต่างก็เดินตามหาพื้นที่ที่จะสร้างบ้านของตน
หมูตั้ม: “ นี่หมูต้อม
แล้วพี่จะสร้างบ้านแบบไหนดีนะ พี่ล่ะนึกไม่ออกเลยจริง ๆ
แล้วตอนนี้พี่ก็หิวแล้วด้วย ”
หมูต้อม: “ เอาน่า ...พี่ตั้ม
เดี๋ยวพอพี่ตั้มมีบ้านเป็นของตัวเอง พี่ตั้มก็สบายแล้ว ”
หมูตั้ม: “ เอ๊ะ ..!! นั่น นั่นใช่พี่ต๊ะ รึป่าว โอ้โห.. พี่ต๊ะสร้างบ้านเสร็จแล้วหรอเนี่ย “
บ้านที่ทำขึ้นมาจากฟางก็ถูกสร้างขึ้นมาเสร็จสมบูรณ์
หมูต๊ะ
(ลูกหมูหมูตัวโตสุด) ได้มาคุยโวอวดพวกน้องๆว่า “ เห็นไหมฉันสร้างบ้านได้เสร็จรวดเร็วกว่าพวกแก 2 ตัว
แล้วพวกแกล่ะยังมัวทำอะไรกันอยู่ นี่ต้องดูอย่างฉันเป็นตัวอย่าง ฮ่า ฮ่า ฮ่า.. “
ฉากหมูตั้มได้พูดชม หมูต๊ะที่สร้างบ้านได้เสร็จรวดเร็ว ก่อนใครๆ
หมูตั้ม: “พี่ต๊ะนี่เก่งจริง ๆ ที่สร้างบ้านฟาง
พี่คิดได้ยังไงสมแล้วที่เป็นพี่ใหญ่ของพวกเรา”
หมูต๊ะ: “ ฮ่า ๆ... มันแน่นอนอยู่แล้ว “
แต่หมูต้อมท้วงติงขึ้นว่า
“ แต่ว่านะ บ้านที่ทำขึ้นมาจากฟาง
ดูแล้วไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไร ถ้ามีลมพายุมาบ้านก็อาจจะพังลงได้ ”
เมื่อหมูตั้มได้ฟังเช่นนั้น
จึงคิดว่าจะสร้างบ้านด้วยไม้ดีกว่าเพราะมันสามารถที่จะต้านลมที่พัดมาแรง ๆ ได้
หมูตั้ม: ” เออใช่... ถ้าเราสร้างบ้านด้วยไม้ ก็จะสามารถต้านลมที่พัดมาแรง ๆ
ได้อย่างแน่นอน “
เมื่อคิดได้ดังนั้น
หมูตั้มก็รีบเข้าไปในป่าเพื่อเก็บรวบรวมเศษไม้มาสร้างบ้าน หมูตั้มเก็บรวบรวมเอาเศษมากองรวมกันไว้เพื่อสร้างบ้าน
หมูตั้ม:
“ เฮ้อ !.. เหนื่อยชะมัด หิวแล้วด้วยเนี่ย
เมื่อไรจะเสร็จซะที “
ฉากหมูตั้มเริ่มสร้างบ้านที่ทำขึ้นมาจากไม้ไม้แต่ละชิ้นก็ได้ถูกนำมาประกอบรวมกันขึ้นมาเป็นบ้าน
จึงเป็นอันว่าหมูตั้ม ก็ได้สร้างบ้านของตนเองที่ทำขึ้นจากไม้ได้สำเร็จเสร็จลงเช่นกัน
เมื่อสร้างบ้านไม้เสร็จ หมูตั้มยืนชื่นชมบ้านไม้ของตนที่สร้างเสร็จแล้วด้วยความภาคภูมิใจ
หมูตั้ม: “เฮ้อ !.. ในที่สุดเราก็สร้างบ้านไม้ของเราเสร็จซักที
นอกจากจะหน้าตาดี ก็ยังเก่งด้วนะเนี่ย”
ระหว่างนั้นหมูต้อมซึ่งกำลังขนอิฐเพื่อไปสร้างบ้านก็ได้เดินผ่านบ้านของหมูตั้ม
หมูตั้มเลยพูดขึ้นมาว่า: “ดูสิ... บ้านที่สร้างมาจากไม้ของฉันสร้างเสร็จแล้วนะ เป็นบ้านที่สามารถต้านลมได้อย่างดีอีกเสียด้วย
“
ฉากหมูต้อม
ท้วงติงขึ้นว่าถึงแม้ว่า บ้านที่ทำขึ้นมาจากไม้นั้นจะต้านลมได้ดีก็จริง
แต่มันก็คงจะต้องพังลงมาถ้า มีใครมาบุกโจมตี
หมูต้อม: “ ถึงแม้ว่าบ้านที่ทำขึ้นมาจากไม้นั้นจะต้านลมได้ดีก็จริง
แต่มันก็คงจะต้องพังลงถ้ามีใครมาบุก “
หมูตั้ม: “ แกพูดว่าอะไรของแก ถ้ามัวขืนแต่จะมาขนอิฐ แกคงจะไม่มีทางสร้างบ้านของแกเสร็จทันเวลาแน่
เพราะว่าอีกไม่นานมันก็จะมืด เดี๋ยวพวกหมาป่ามันก็จะถึงเวลาออกมาหากินของมัน “
หมูต้อม: “ เราเพียงแต่ต้องการที่จะสร้างบ้านด้วยอิฐเอาไว้เป็นที่พักอาศัย
เพราะว่ามันแข็งแรง และไม่พังลงมาอย่างง่าย ๆ ถึงแม้ว่าจะมีลมพัดมแรง ๆ
บ้านก็จะไม่เป็นอะไรทั้งนั้น “
หลังจากนั้นหมูต้อม
ก็ผสมปูนเพื่อทำฐานของบ้านให้แข็งแรงโดยซ้อนอิฐทีละก้อนด้วยความอุตสาหะ และอดทน
หมูต้อม: “ เฮ้อ !.. ถึงแม้ว่าจะเหนื่อย
แต่เราก็จะได้บ้านที่แข็งแรงกว่าใคร ”
พี่หมูทั้งสองตัวได้เดินเข้าไปหาหมูต้อมซึ่งกำลังสร้างบ้านอิฐอยู่แล้วพูดว่า...
หมูต๊ะ: “ นี่มันจะค่ำแล้วแล้วนะ แกมัวทำอะไรอยู่ เดี๋ยวพวกหมาป่าก็จะได้เวลาออกมาหากินแล้ว
“
หมูตั้ม: “ และถ้าแกโดนหมาป่ากินเข้าไป พวกเราก็จะไม่ช่วยแกนะ ฮ่า อ่า อ่า... “
หมูต้อมก็ไม่สนใจฟังสิ่งที่พี่หมูทั้ง
2 ตัวเย้ยหยันและตั้งใจที่จะสร้างบ้านของตัวเองให้แข็งแรงต่อไป
หมูต้อม: “ ก่ออิฐทีละก้อน ทีละก้อน เรียงขึ้นไปเรื่อย ๆ
เดี๋ยวก็จะได้บ้านที่แข็งแรง ไม่ต้องกลัวหาป่าอีกต่อไปแล้ว ฮ่า ฮ่า ฮ่า... “
และเมื่อความมืดเข้ามาเยือน......
ในที่สุดบ้านของหมูต้อมก็สร้างเสร็จเรียบร้อยทันเวลาก่อนฟ้ามึดแบบฉิวเฉียด
โบวววว์.............................................................................. ใช่แล้ว มันเป็นเสียงของหมาป่าที่ได้เวลาออกมาหากินของมันแล้ว
หมูต๊ะ
นั่งตัวสั่นกลัวอยู่ในบ้านฟางและเสียงหอน ของหมาป่านั้นก็ทำให้พี่หมูทั้ง 2 ตัวต้องนั่งตัวสั่น
ด้วยความกลัวเป็นอย่างมาก
หมูต๊ะ: “ อึ๋ย !.. ได้เวลาหมาป่าออกมาหากินแล้ว
ดีนะที่เราสร้างบ้านเสร็จทันเวลา “
เช้าวันรุ่งขึ้น…………………
พี่หมูทั้งสองตัวก็ได้มาชวนหมูต้อมไปบ้านแม่หมู
ลูกหมูทั้งสามตัว : “ แม่ครับ ผมสร้างบ้านเสร็จแล้วครับ “
แม่หมู: “ ลูกของแม่เก่งมาก จากนี้ไปลูก ๆ
ก็ออกไปหากินเองได้แล้ว “
เมื่อได้ยินแม่หมูพูดพี่หมูทั้งสองตัวก็พูดบ่นขึ้นมา
หมูตั้ม
: “ ไม่เอาล่ะ... น่าเบื่อจะตาย เหนื่อยก็เหนื่อย
อยู่กับแม่สบายกว่าตั้งเยอะ “
แม่หมูรู้สึกระอาใจ
กับพี่หมูทั้งสองตัวเป็นที่สุด……
ในขณะที่ลูกหมูทั้งสามกำลังเดินทางกลับไปที่บ้านของพวกตนอยู่นั้นพลันก็ได้มีหมาป่าตัวหนึ่งเดินดมกลิ่นหาเหยื่ออยู่ในป่าแถว
ๆ นั้น เดินผ่าน มาและได้แอบเห็นลูกหมูทั้งสามกำลังเดินกลับบ้านของพวกมัน
เจ้าหมาป่า รีบสะกดรอยติดตามหลังไปติด ๆ
หมาป่า
: “ ดีจัง มีลูกหมูน่าอร่อยตั้งหลายตัวแน่ะ...เราจะกินตัวไหนก่อนดีนะ
“
เมื่อลูกหมูทั้งสามตัวเดินทางแยกย้ายกันกลับไปที่บ้านของตนแล้ว
เจ้าหมาป่าก็ได้ตัดสินใจที่สะกดรอยตามหมูต๊ะ (ลูกหมูตัวโตสุด) ซึ่งสร้างบ้านฟาง
หมาป่า
: “ แฮ่ ๆ...
ข้าจะต้องกินอ้ายหมูตัวที่ขี้เกียจที่สุด ที่สร้างบ้านด้วยฟางนั่นก่อนเลย “
หมาป่าจึงได้มาเคาะประตูบ้านของหมูต๊ะซึ่งสร้างบ้านฟาง
หมาป่า
:“ ป๊อก...ป๊อก...
แฮ่ ๆ เจ้าหมูน้อย เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะ “
หมูต๊ะ:“ ข้าไม่เปิดประตูให้หรอก เจ้าหมาป่าเจ้าเล่ห์ “
หมูต๊ะตกใจเป็นอย่างมาก และได้รีบลงกลอนประตูทันทีเหมือนกันหมาป่าเห็นดังนั้นจึงรวมรวมพลังและพ่นลม
ปากของมันเป่าใส่บ้านที่ทำขึ้นมาจากฟางทั้งหลังก็มีอันได้พังลงไปทั้งหลัง
หมาป่า
: “ไอ้บ้าเอ้ย !.. บ้านที่ทำมาจากฟางของแกเนี่ยนะ
แค่โดนข้าเป่าทีเดียวก็พังหมดแล้ว“
ว่าแล้วหมาป่าก็พ่นลมปากของมัน
“ ฟู่ ๆ ” บ้านที่ทำขึ้นจากฟางทั้งหลังก็มีอันต้องพังลงไป
หมูต๊ะ
ตกใจเป็นอย่างมาก จึงรีบวิ่งหนีหมาป่าไปบ้านของหมูตั้มทันที
หมูต๊ะ
: “ หมูตั้ม... ช่วยด้วย ช่วยด้วย “
พี่หมูทั้งสองตัวนั่งกอดกันตัวสั่นเทาไปหมดกับเสียงอันน่าหวาดกลัวของหมาป่า
ว่าแล้วมันก็กระโดดเข้าชนประตูบ้านอย่างรุนแรงบ้านที่ทำขึ้นจากไม้ลั่นเสียงดัง “ เอียด ๆ ” แล้วเริ่มโอนเอนไปมา
หมูตั้ม: “ เราจะทำยังไงกันดี หมาป่ากำลังจะพังบ้านไม้ของฉันแล้ว “
หมูต๊ะ: “ ถ้าบ้านพังพวกเราต้องโดนหมาป่ากินแน่ ๆ ฮือ ๆ “
และเมื่อหมาป่ากระโดดเข้าชนซ้ำเข้าไปอีก
บ้านที่สร้างขึ้นมาจากไม้มีอันต้องพังลงไป
จากนั้นหมาป่าก็กระโจนเข้าไปจนเกือบจะชิดตัวลูกหมู ทั้งสองตัว ซึ่งกำลังโอบกอดกันอยู่ด้วยอาการสั่นเทา
พี่หมูทั้งสองตัวรีบวิ่งหนีหมาป่าไปอย่างสุดชีวิตโดยมีเจ้าหมาป่าก็ได้วิ่งตามมาติด
ๆ พี่หมูทั้งสองตัววิ่งหนีจนมาถึงที่บ้านอิฐของหมูต้อมด้วยความยากลำบาก
หมูตั้ม: “ หมูต้อม ช่วยพี่ด้วย หมาป่ากำลังวิ่งไล่ตามมาแล้ว “
หมูต๊ะ:“ เร็ว ๆ หมาป่ากำลังวิ่งตามมา รีบปิดประตูใส่กุญแจเดี๋ยวนี้เลยไม่อย่างนั้นพวกเราต้องโดนหมาป่ากินแน่
ๆ “
พี่หมูทั้งสองตัวรีบลงกลอนประตู
แม้กระนั้นหมูต้อมกลับยิ้มและพูดว่า......
หมูต้อม:“ มันไม่เป็นปัญหาหรอก เพราะบ้านที่สร้างขึ้นมาจากอิฐนั้นแข็งแรงแม้ หมาป่าโจมตีอย่างไรก็ไม่มีทางพังลงมาอย่างง่าย
ๆ แน่นอน “
ว่าแล้ว หมาป่าก็โผเข้าไปที่ประตูบ้านอย่างรวดเร็ว “ปั้ง ปึง ปึง” แต่มันแทบจะถอดกระดูกของมันออกเป็นชิ้น
ๆ เลยทีเดียว ด้วยความแข็ง ของอิฐ
หมาป่า
: “ โอ้ย !.. ทำไมถึงพังยากอย่างนี้นะ
“
หมาป่าได้รับบาดเจ็บ
ดังนั้นมันจึงจำใจต้องถอยออกไปอย่างไม่ค่อยที่จะเต็มใจสักเท่าใดนัก
หมาป่า
:“ หนอย !.. ฝากไว้ก่อนเถอะ
เดี๋ยวได้เห็นดีกัน โอ้ย...โอ้ย !... “
หลังจากหมาป่าไปแล้วลูกหมูทั้งสามตัวจึงตกลงกันว่าจะอาศัยอยู่ด้วยกันที่บ้านของหมูต้อม
ชั่วขณะหนึ่งก่อน ส่วนเจ้าหมาป่า ตั้งแต่วันนั้นมันได้เงียบหายไป สงสัยว่าคงจะเจ็บมากเลย
ไม่คิดที่จะมาก่อกวนอีก...
หมูตั้ม:“ คราวนี้เราก็ไม่ต้องกลัวเจ้าหมาป่าอีกต่อไปแล้ว มันคงไม่กล้า กลับมาอีกแล้วล่ะ
“
หมูต๊ะ: “ รู้อย่างนี้เราสร้างบ้านอิฐที่แข็งแรงอย่างหมูต้อมดีกว่า
เราจะได้ไม่ต้องโดดเจ้าหมาป่ามาพังบ้านแบบนี้ ถึงแม่ว่าบ้านอิฐจะสร้างได้ยากลำบาก
แต่เราก็จะปลอดภัย
หลังจากนั้นต่อมาไม่นาน เจ้าหมาป่าก็ได้เดินแบกเอาบันไดยาวมาที่บ้านอิฐ
ซึ่งลูกหมูทั้งสามตัวอาศัยอยู่ เพื่อที่จะเข้าไปในบ้านได้อย่างง่าย ๆ นั่นก็คือ ทางปล่องไฟบนหลังคานั่นเอง
มันได้นำบันไดยาวที่แบกมาด้วยนั้นไปตรงที่หลังคา
แล้วจากนั้นมันก็ได้ปีนขึ้นไปทางปล่องไฟบนหลังคา
หมาป่า
: “ ฮ่า ฮ่า ฮ่า...
พวกแกเสร็จข้าแน่ เจ้าลูกหมูทั้งสาม “
เมื่อลูกหมูทั้งสามได้เห็นเจ้าหมาป่ากำลังปีนขึ้นมาทางปล่องไฟอยู่นั้น
หมูต้อม จึงพูดว่า..
หมูต้อม
: พี่หมูตั้ม รีบไปจุดไฟที่เตาผิงเร็วเข้า เร็ว ๆ
หมาป่าที่กำลังปีนปล่องไฟลงมานั้น
ได้ตกลงมาบนกองไฟและได้รับบาดเจ็บสาหัส
หมาป่า: “ โอ้ย !.. ร้อน
ๆ ช่วยด้วย ๆ “
และแล้วหมาป่าก็รีบวิ่งหนีออกมาจากบ้านของลูกหมู
และไม่กล้ากลับมาอีกเลย
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา หมูตัวพี่ ๆ ทั้งสองตัวก็หันมาเอาอย่างหมูต้อม คือ
หันมาขยันหมั่นเพียร และไม่เกียจคร้าน ส่วนแม่หมูก็พลอยมี ความสุขไปด้วย และในที่สุดแม่หมู
และลูกหมูทั้งสามก็อาศัยอยู่อย่างมีความสุข
มีเพลงลูกหมูสามตัวให้ร้องด้วยนะ 555555555555555 อ่านจะฟังง่าย จำง่ายกว่าที่เราอ่านเองก็ได้ ...... http://guru.sanook.com/27373/
ตอบลบ